TH EN
banner
ข้อบังคับชมรม
หมวดที่ 1 : ชื่อชมรม

ภาษาไทย            ชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภาษาอังกฤษ        “Information Technology Club” (IT Club)

หมวดที่ 2 : สถานที่ตั้ง

อาคารชุดเลครัชดาออฟฟิศคอมเพล็กซ์ 2 ชั้น 5 เลขที่ 195/6
ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์            0-2264-0909 
โทรสาร              0-2661-8505-6

หมวดที่ 3 : วัตถุประสงค์ของชมรม

1. ส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานของเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านหลักการและด้านปฏิบัติ
2. ส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกของชมรมให้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน
3. ส่งเสริมและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของธุรกิจหลักทรัพย์โดยรวม
4. เป็นศูนย์กลางและเป็นตัวแทนของสมาชิกเพื่อให้ความร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5. ประสานความร่วมมือระหว่างสมาชิกในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
6. ส่งเสริมการศึกษา วิจัย และการเผยแพร่ทางวิชาการและข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

หมวดที่ 4 : สมาชิกและสมาชิกภาพ

สมาชิกชมรมได้แก่ บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ หรือธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สมาชิกของชมรมจะเป็นสมาชิกของสมาคมหรือชมรมอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกันกับชมรมไม่ได้
 
ค่าบำรุงชมรม
1. สมาชิกต้องเสียค่าลงทะเบียนสมาชิกแรกเข้าเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท
2. สมาชิกจะต้องชำระค่าบำรุงรายปี ตามปีปฏิทินในอัตราที่คณะกรรมการชมรมกำหนดแต่ไม่เกินปีละ 20,000 บาท
3. สมาชิกจะต้องชำระค่าบำรุงรายปีภายในเดือนมกราคมของทุกปี หรือตามที่คณะกรรมการชมรมกำหนดแต่ไม่เกินเดือนมีนาคมของทุกปี
 
การพ้นจากการเป็นสมาชิก
สมาชิกย่อมขาดจากสมาชิกภาพในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
1. สมาชิกแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรขอลาออกจากชมรม
2. ไม่ชำระค่าบำรุงรายปี และคณะกรรมการมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิก
3. ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้ถอนชื่อจากทะเบียนสมาชิกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
4.คณะกรรมการชมรมมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพโดยจะดำเนินการตามขั้นตอน
 
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
1. สมาชิกต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและจรรยาบรรณของชมรม
2. แสดงความคิดเห็น และออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุม
3. รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการของชมรม
4. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของชมรม
5. ได้รับประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมของชมรม

หมวดที่ 5 : การประชุมสมาชิก

การประชุมสมาชิก

1. ให้คณะกรรมการชมรมจัดประชุมสมาชิกสามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ภายใน 3 เดือนนับแต่วันปิดรอบระยะเวลาบัญชีของชมรม
2. การประชุมสมาชิกคราวอื่น ให้เรียกว่าประชุมวิสามัญ ซึ่งคณะกรรมการชมรมหรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
    จะร้องขอให้คณะกรรมการชมรม โดยแจ้งเหตุร้องขอจัดประชุมนั้นเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังเลขาธิการคณะกรรมการชมรม
3. การประชุมสมาชิกสามัญประจำปี ต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จึงจะครบเป็นองค์ประชุม หากเวลา
    ผ่านพ้นไป 1 ชั่วโมง สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม ให้เลื่อนการประชุมไปคราวหน้า และให้คณะกรรมการชมรมเรียกประชุมใหม่ การประชุมครั้ง
    หลังนี้แม้สมาชิกไม่ครบเป็นองค์ประชุมก็ให้ดำเนินการประชุมไปได้
4. การประชุมสมาชิกวิสามัญ ต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะครบเป็นองค์ประชุม หากเวลาผ่านพ้นไป 
    1 ชั่วโมง สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุมก็ให้เลื่อนการประชุมไปคราวหน้า และให้คณะกรรมการชมรมเรียกประชุมใหม่ การประชุมครั้งหลังนี้ 
     แม้มีสมาชิกไม่ครบเป็นองค์ประชุมก็ให้ดำเนินการประชุมไปได้ เว้นแต่ในกรณีของการประชุมสมาชิกวิสามัญที่สมาชิกร้องขอให้คณะกรรมการ
     ชมรมจัดประชุมนั้น หากสมาชิกมาไม่ครบเป็นองค์ประชุมก็ให้ยกเลิกการประชุมนั้นเสีย
   
การบอกกล่าวประชุมสมาชิก
การบอกกล่าวประชุมสมาชิก ให้แจ้งล่วงหน้าก่อนการประชุมไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ โดยทางจดหมายนำส่งหรือโทรสาร พร้อมทั้งแจ้ง
รายละเอียด วัน เวลา สถานที่ และวาระการประชุม

ประธานในที่ประชุมสมาชิก
ให้ประธานคณะกรรมการชมรมเป็นประธานในที่ประชุมสมาชิก ถ้าประธานคณะกรรมการชมรมไม่มาประชุม ให้สมาชิกเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่ง 
ทำหน้าที่แทน

การลงคะแนนเสียงในการประชุมสมาชิก
ให้ที่ประชุมถือคะแนนเสียงข้างมากในที่ประชุมเป็นเกณฑ์ สมาชิกแต่ละรายมีคะแนนเสียงรายละหนึ่งเสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่
ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด ยกเว้นกรณีที่กำหนดไว้เฉพาะในหมวดของ “การเลิกชมรม” และ “การแก้ไขระเบียบ ข้อบังคับ ของชมรม"

หมวดที่ 6 : การบริหารชมรม

ข้อ1. คณะกรรมการชมรม

       1.1 การเลือกตั้งและแต่งตั้งคณะกรรมการของชมรม

             1.1.1 ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งมีจำนวนรวมไม่เกิน 13 คน ประกอบด้วยกรรมการซึ่งมาจากการเลือกตั้งของที่ประชุม
                       สมาชิกของชมรม ไม่เกิน 12 คน และกรรมการอีก 1 คน คือ เลขาธิการสมาคมเป็นกรรมการและเลขาธิการชมรมโดยตำแหน่ง

             1.1.2การเลือกตั้งประธานและกรรมการ ให้กระทำโดยสมาชิกเลือกตั้งจากรายชื่อบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกตามที่ตนเห็นสมควรให้
                     ดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการของชมรมแล้วแต่กรณีจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง

                      ในการเลือกตั้งตามวรรคแรก ให้เลือกตั้งประธานก่อน โดยให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นผู้ที่ได้รับเลือก หากปรากฏว่ามี
                      ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดมากกว่า 1 คนให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน หากปรากฏว่าคะแนนเท่ากัน
                      อีกให้ใช้วิธีจับสลาก

                      ในกรณีที่ไม่มีผู้เสนอรับเลือกตั้งเป็นประธาน หรือผลการเลือกตั้งไม่สามารถหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานได้ ไม่ว่าด้วย
                      สาเหตุใด หรือกรณีที่ประธานพ้นสภาพการเป็นประธานและกรรมการชมรมตามข้อ 4. ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการชมรม 
                      ในการพิจารณาแต่งตั้งประธานชมรม ตามคุณสมบัติที่กำหนด

                      ในการเลือกตั้งกรรมการของชมรมให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงตามลำดับได้เป็นกรรมการของชมรมมีจำนวนตามที่ที่ประชุมใหญ่
                      จะได้กำหนดเป็นคราว ๆ ไป แต่ไม่เกินจำนวนที่ระบุไว้ในข้อ 1.1.1 ถ้ามี ผู้ที่ได้คะแนนเท่ากันในลำดับสุดท้ายที่จะได้เป็น
                      กรรมการคราวนั้นให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน หากปรากฏว่าคะแนนเท่ากันอีกให้ใช้วิธีจับสลาก

             1.1.3 บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยบัญชีรายชื่อของบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกให้เป็นผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง
                      ในตำแหน่งประธานและบัญชีรายชื่อของบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกให้เป็นผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งในตำแหน่งกรรมการชมรม

             1.1.4 ผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานหรือกรรมการของชมรม จะต้องเป็นบุคลากรของบริษัทสมาชิกหรือบริษัทในเครือเดียวกัน
                      ที่บริษัทสมาชิกเสนอชื่อ

             1.1.5 การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อรับเลือกตั้งเป็นประธานและกรรมการชมรมให้เสนอต่อเลขาธิการสมาคมก่อนวันประชุมใหญ่
                      ของชมรมไม่น้อยกว่าสิบวัน และให้เลขาธิการสมาคมส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังสมาชิกล่วงหน้า
                      ก่อนวันประชุมใหญ่ของชมรมไม่น้อยกว่าเจ็ดวันและเสนอในวันประชุมก็ได้

             1.1.6 ให้บรรดากรรมการของชมรมเลือกตั้งกันเอง เพื่อดำรงตำแหน่งอุปนายก เหรัญญิก นายทะเบียน และตำแหน่งอื่น ๆ
                      ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มี

             1.1.7 คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งวาระละ 3 ปี และในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปีทุกครั้งให้กรรมการออกจากตำแหน่งจำนวนหนึ่ง
                      ในสาม (1/3)ของจำนวนกรรมการในขณะนั้น โดยให้ผู้ที่อยู่ในวาระนานที่สุดออกก่อนและหากไม่ครบให้ใช้วิธีจับสลากกรรมการที่เหลือ
                      โดยวิธีจับสลากหากจำนวนที่คำนวณได้มีเศษ ให้ปัดเศษทิ้งและให้ถือว่าการออกจากตำแหน่งในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปี
                      เป็นการออกตามวาระด้วยเพื่อให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระนั้น กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ
                      อาจได้รับเลือกตั้งได้อีก

             1.1.8 ความในข้อ 1.1.2 กับ 1.1.7 มิให้นำมาใช้บังคับแก่เลขาธิการสมาคม ซึ่งเป็นกรรมการและเลขาธิการชมรมโดยตำแหน่ง

       1.2 ให้มีคณะที่ปรึกษาคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย 3 ท่าน และผู้ทรงคุณวุฒิอื่น รวมทั้งตัวแทนจากองค์กร
              ที่เกี่ยวข้องอีกไม่เกิน 3 ท่าน โดยมีวาระคราวละ 1 ปี

       1.3 ให้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเข้าร่วมเป็น
              ที่ปรึกษาในฝ่ายงานต่าง ๆ ของชมรมตามที่คณะกรรมการชมรมเห็นสมควร

       1.4 ให้คณะกรรมการ และประธานกรรมการจากการเลือกตั้งของสมาชิกชมรมแจ้งรายชื่อประธานกรรมการชมรม และกรรมการชมรมให้สมาชิกทราบ
              ภายใน 30 วันนับแต่วันที่การเลือกตั้งเสร็จสิ้นสมบูรณ์

       1.5 การเลือกตั้งกรรมการชมรมโดยสมาชิกในที่ประชุมสมาชิกจะกระทำโดยวิธีเปิด เผยหรือวิธีอื่นก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ที่ประชุมใหญ่
             สมาชิกจะกำหนด

       1.6 ให้คณะกรรมการชมรมร่วมกันกำหนดและมอบหมายความรับผิดชอบในงานด้านต่างๆ ของชมรมภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้
              จัดตั้งคณะกรรมการ ชมรมเสร็จสิ้นสมบูรณ์

ข้อ2.อำนาจและหน้าที่ของประธานกรรมการและกรรมการชมรม

       2.1 บริหารกิจการของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์

       2.2 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งที่ปรึกษาของชมรมและคณะอนุกรรมการได้

       2.3 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะทำงานในเรื่องต่างๆ จากสมาชิกหรือบุคคลอื่นที่ คณะกรรมการเห็นสมควร

       2.4 ให้ประธานคณะกรรมการชมรมเป็นผู้แทนของชมรมในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกและเป็นประธานในที่ประชุม
              ของคณะกรรมการชมรมและในที่ประชุมสมาชิก

       2.5 ให้เลขาธิการสมาคมมีหน้าที่ช่วยเหลือประธานในกิจการทั้งปวงอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของประธาน เป็นผู้ปฏิบัติการแทน
             ประธานในขณะที่ประธานไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้หรือตามที่ประธานจะมอบหมายและมีหน้าที่บริหารงานเอกสาร
             ที่เกี่ยวกับการประชุม

       2.6 ให้ประธานคณะกรรมการชมรมประสานงานกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยในการ แต่งตั้ง หรือมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสมาคมบริษัท
              หลักทรัพย์ไทยทำหน้าที่รักษาและจดบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงิน ทรัพย์สิน รายรับ-รายจ่ายของชมรมตลอดจนปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนสมาชิก
              และหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการชมรมเห็นสมควร
   
ข้อ3.การประชุมคณะกรรมการชมรม

       3.1 ให้มีการประชุมคณะกรรมการชมรมตามที่ประธานคณะกรรมการจะเห็นสมควรแต่อย่างน้อยจะต้องมีการประชุมกันทุกสองเดือน

       3.2 ในการประชุมคณะกรรมการทุกครั้งต้องมีกรรมการมาร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะ
              ครบองค์ประชุม

       3.3 ให้ประธานคณะกรรมการชมรมเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานไม่มาประชุมให้เลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทน

       3.4 มติของที่ประชุมคณะกรรมการชมรมให้ถือเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการที่มาประชุมเป็นเกณฑ์ ในกรณีที่เสียงเท่ากัน
             ให้ประธานที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
   
ข้อ4.การพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการชมรม

       กรรมการชมรมจะพ้นจากตำแหน่ง ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

       4.1 ถึงแก่กรรม

       4.2 ถึงคราวออกตามวาระ

       4.3 ลาออกจากกรรมการ

       4.4 ออกจากบริษัทสมาชิกหรือพ้นสภาพการเป็นผู้แทนของบริษัทสมาชิก

       4.5 บริษัทสมาชิกขาดจากสมาชิกภาพ

       4.6 ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้ถอดถอนด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของจำนวน สมาชิกที่มาประชุม
   
ข้อ5. ตำแหน่งกรรมการว่างลงก่อนครบวาระ

       ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลง ซึ่งนอกเหนือไปจากการออกตามวาระในข้อ 1.1.7 กรรมการชมรมอาจพิจารณาแต่งตั้งกรรมการเข้าดำรงตำแหน่ง
       แทนโดยกรรมการผู้ได้รับการแต่งตั้งขึ้นใหม่มีวาระการดำรงตำแหน่งได้เท่ากับกรรมการที่ตนเข้ามาแทนพึงมี

หมวดที่ 7 : การเงินและการบัญชี

รอบปีบัญชีของชมรมเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีให้ผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคมทำการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย และงบดุลของทางชมรมแล้วนำเสนอต่อที่ประชุมสมาชิก ในการประชุมสามัญประจำปี

หมวดที่ 8 : การแก้ไข “ระเบียบข้อบังคับ” ของชมรม

การแก้ไขระเบียบข้อบังคับของชมรมจะสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ด้วยมติของที่ประชุมสมาชิก ซึ่งต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 
ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม

หมวดที่ 9 : บททั่วไป

ในกรณีที่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยหรือตีความเกี่ยวกับข้อบังคับนี้หรือการดำเนินการของชมรมให้คณะกรรมการชมรมเป็นผู้วินิจฉัยหรือตีความแล้วแต่กรณี

TOP